Facebook

วันพุธที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2551

คุณจะพูดภาษาอังกฤษคล่องได้อย่างไร?

คุณจะพูดภาษาอังกฤษคล่องได้อย่างไร?

ก่อนอื่นมาทำความเข้าใจคำว่าความคล่องตัวกันก่อน ความคล่องหมายถึงการโต้ตอบบทสนทนาได้อย่างทันทีทันใดคือการเข้าใจทันทีและพูดตอบออกมาทันทีไม่ต้องแปลในสิ่งที่ได้ยินและไม่ต้องแปลสิ่งที่คิดจะพูดจากภาษาไทยเป็นภาษาอังกฤษ คุณสามารถฝึกความคล่องตัวนี้ได้อย่างไร เคยสังเกตจากธรรมชาติการเรียนภาษาของเด็กเล็กๆไหม ทักษะแรกที่เขาทำคือ การฟัง การเก็บข้อมูล และนำสู่ การทำความเข้าใจ และพูดออกมาในที่สุดเมื่อเด็กมีความพร้อม คุณเองก็เริ่มความคล่องตัวจากกระบวนการเรียนรู้นี้ได้
โดยเริ่มจากการฟังในสิ่งที่คุณเข้าใจได้ไม่ยากเกินไปก่อน ถ้าคุณไม่เข้าใจในสิ่งที่คุณฟังนั้นหมายถึงคุณไม่ได้เรียนรู้อะไรใช่ไหมค่ะ ถ้าคุณฟังและอ่านไปด้วยคุณจะเข้าใจได้ดีขึ้น
การทำซํ้าๆ ฟังซํ้าๆฝึกพูดและออกเสียงซํ้าๆจะทำให้คุณพูดได้คล่องขึ้น ตั้งข้อสังเกตอีกครั้งแม้ภาษาไทยของเราเอง หลายๆครั้งเรายังต้องมีการเตรียมการพูดและฝึกพูดเลย นับประสาอะไรกับภาษาอังกฤษที่ไม่ใช่ภาษาของเรา ถ้าเราไม่เคยฝึกเลยเราจะพูดได้คล่องได้อย่างไร

การฝึกฟัง

คุณสามารถทำได้จากการฝึกฟังจากหนัง แต่คงไม่ใช่การที่คุณไปนั่งอ่านหนังในโรงแน่ หูของคุณไม่ได้ทำงานเต็มที่เลยแบบนั้น คุณคงต้องลงทุนนิดหน่อยนะคะ ซื้อมาเลยค่ะหนังที่คุณชอบและคิดว่าจะดูได้เป็นร้อยรอบ รอบแรกคุณจะดูแบบไหนจะอ่าน Subtitle ไทยหรืออังกฤษก็ได้ไม่ว่ากัน แต่เมื่อคุณฝึกขอให้คุณปิด Subtitle และเริ่มฟังเพียง 10 นาทีของบทสนทนาเท่านั้น หลังจากนั้นก็หากระดาษปากกามาให้พร้อมเลยค่ะ ย้อนกลับไปที่ที่คุณเริ่มฟังจากนั้นก็จดทุกคำที่คุณได้ยินไม่ได้ยินหรือได้ยินไม่ชัดก็กลับไปฟังใหม่ ทำแบบฝึกหัดนี้อยู่ประมาณ 20 นาที เมื่อครบ 20 นาทีก็ตรวจความถูกต้องจาก Subtitle แต่ภายใต้เงื่อนไขหนึ่งค่ะต้องเป็นแผ่นลิขสิทธิ์นะคะ แผ่นผีบางแผ่นอาจให้ Subtitle ไม่ตรงกับบทพูดได้ค่ะ จากนั้นก็ลองเปิดหาคำศัพท์ใหม่ที่คุณไม่ทราบด้วยนะคะ คุณก็จะได้เพิ่มพูนคลังคำศัพท์ของคุณ เมื่อทำแบบฝึกหัดเสร็จลองกลับไปฟังทวนอีกทีสิค่ะ คราวนี้คุณฟังง่ายขึ้นแน่นอน
ครั้งแรกที่คุณทำแบบฝึกหัดนี้คุณอาจจะจดได้ไม่กี่คำหรอกค่ะแต่อย่าเพิ่งท้อคุณเพิ่งทำเป็นครั้งแรกเองนะคะอย่าลืม
ทำแบบฝึกหัดนี้สัก 3 ครั้งต่ออาทิตย์ ใน 1 เดือน คุณจะทำทั้งหมด 12 แบบฝึกหัด เปรียบเทียบครั้งแรกกับครั้งที่ 12 ดูสิค่ะ มีพัฒนาการให้คุณเห็นแน่นอน อีกทั้งคุณยังจะได้คำศัพท์สำนวนหรือประโยคที่ใช้ในสถานการณ์ต่างๆ ถ้าคุณฝึกออกเสียงไปด้วยคุณก็จะได้ฝึกการออกเสียงอีกด้วย เห็นไหมค่ะแค่วันละครึ่งชั่วโมง 3 ครั้งต่ออาทิตย์คุณได้ฝึกตั้งหลายอย่าง

การทำซํ้าๆทั้งการฝึกฟัง อ่าน และการทำความเข้าใจ

ความตั้งใจของหนังสือเล่มนี้คือ ให้เป็นแบบฝึกหัดอ่านและพูดของคุณ คุณจะได้เห็นการใช้ภาษาอังกฤษในสถานการณ์ต่างๆ การที่คุณได้อ่านออกเสียงจะช่วยให้คุณขยับปากได้คล่องขึ้น การพูดซํ้าๆจะทำให้คุณซึมซาบคำศัพท์และโครงสร้างที่ถูกต้องรวมทั้งฝึกความเป็น
อัตโนมัตในการทำความเข้าใจโดยที่คุณเองก็ไม่รู้ตัว เมื่อนึกจะพูดอีกทีคุณก็จะพูดได้ดีขึ้นทันใจขึ้น คุณเองก็อาจจะรู้สึกประหลาดใจในตัวเองไม่น้อย แต่จะถึงจุดนั้นได้แน่นอนต้องมีการทุ่มเทและฝึกฝนเป็นประจำนะคะ หลายคนถามว่าต้องฝึกมากน้อยแค่ไหน ฝึกทีต้องใช้เวลานานไหม จริงๆแล้วถ้าคุณฝึกอยู่บ่อยๆเพียงครั้งละไม่นานคุณก็จะไม่รู้สึกเหนื่อยกับการฝึกฝน ยิ่งสมัยนี้มีเทคโนโลยีสมัยใหม่ช่วยให้การเรียนและฝึกฝนเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้นพกพาไปด้วยได้ทุกที ข้ออ้างเรื่องไม่มีเวลาดูจะตกไปเลยค่ะ เห็นด้วยไหมค่ะ คุณสามารถฝึกฟังได้แม้เวลาขับรถหรืออยู่บนรถไฟหรือรถประจำทาง


คราวนี้ก็มาเข้าเรื่องของเรากันนะคะ หลายๆท่านจำเป็นต้องใช้ภาษาอังกฤษบางคนเต็มใจและมีความพร้อม บางคนไม่ หลายคนต้องใช้เพื่อเรียน บางคนจำเป็นต้องใช้ที่ทำงานหรือเพื่อเปลี่ยนงานใหม่หรือเปลี่ยนตำแหน่ง ถ้าคุณรู้แน่ๆว่ายังไงก็ต้องใช้ภาษาอังกฤษ เรามาเตรียมตัวกันเพื่อความพร้อมจะไม่ดีกว่าหรือค่ะ

ขอเป็นกำลังใจให้คุณทุกๆท่านค่ะ

กมลวรรณ ต่างใจ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น